ความสำคัญของเมืองอัฟดีฟกามีมากกว่าเป็นฐานมั่นหลักของยูเครนทางด้านตะวันออก เนื่องจากเมืองนี้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตถ่านโค้ก ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของยูเครน หลังจากเสียเมืองนี้ ผู้นำยูเครนได้ร้องขอให้ชาติตะวันตกส่งอาวุธเพิ่มให้อย่างเร่งด่วน

เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 18 ก.พ.) โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ประกาศในการแถลงข่าวยอมรับว่า ยูเครนเสียเมืองอัฟดีฟกาให้กับรัสเซียไปแล้ว

สหรัฐฯ เตือน ยูเครนอาจเสียเมืองอัฟดีฟกาในโดเนตสก์ให้กับรัสเซีย

ปธน.ยูเครนปลดผู้บัญชาการกองทัพ ชี้ปรับให้เข้ากับสถานการณ์

แต่เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ทางโทรศัพท์ เพื่อแจ้งสถานการณ์และเน้นถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ต้องได้รับความช่วยเหลือทางการทหารเพิ่มเติม

หลังจากนั้น ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้โทรศัพท์หาประธานาธิบดีเซเลนสกีในวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์สู้รบในยูเครน

ในระหว่างการหารือ ผู้นำสหรัฐฯให้คำมั่นกับผู้นำยูเครนด้วยว่า จะเร่งผ่านร่างกฎหมายเพื่อจัดส่งความช่วยเหลือทางการทหาร ที่ติดขัดอยู่ในสภาคองเกรสโดยด่วน พร้อมกันนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า การที่สภาคองเกรสไม่ผ่านงบให้ยูเครนทำให้รัสเซียได้รับชัยชนะครั้งแรกในรอบหลายเดือน

ที่ผ่านมา สหรัฐฯ คือ ผู้สนับสนุนทางการทหารหลักให้กับยูเครน นับตั้งแต่เกิดสงคราม สหรัฐฯ ได้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับยูเครนไปแล้วคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 2.7 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือทางการทหารเหล่านี้ต้องสะดุดลง หลังจากที่ร่างกฎหมายงบประมาณ ถูกสมาชิกพรรครีพับลิกันสกัดไว้โดยให้เหตุผลว่า ร่างดังกล่าวไม่ให้ความสำคัญมากพอกับการดูแลความมั่นคงชายแดนของสหรัฐฯ เอง

หลังจากนั้นจึงมีการเสนอร่างใหม่ที่มีเฉพาะงบความช่วยเหลือทางการทหารกับชาติพันธมิตรสหรัฐฯ เข้าไป โดยขณะนี้ร่างดังกล่าวกำลังรอการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร หลังผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายประเมินว่า การพิจารณาร่างดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการพักประชุมสองสัปดาห์

ความช่วยเหลือที่ล่าช้าจากสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้กองกำลังยูเครนที่แนวหน้าอ่อนแรงลงทั้งในทางกายภาพและทางด้านจิตใจ นี่คือพื้นที่ที่ตกอยู่ในการยึดครองของรัสเซียในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาของการทำสงคราม ทั้งหมดนี้เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ใน 4 แคว้น ได้แก่ แคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย

พื้นที่ตลอดแนวรบด้านตะวันออกตั้งแต่เหนือจรดใต้คิดเป็นความยาวกว่า 1,000 กิโลเมตร และคิดเป็นร้อยละ 18 ของพื้นที่ประเทศยูเครนทั้งหมด

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ยูเครนได้เปิดปฏิบัติการโต้กลับหรือ Counter Offensive เพื่อยึดดินแดนเหล่านี้คืน แต่การยึดพื้นที่คืนไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากรัสเซียมีการวางแนวป้องกันไว้อย่างแน่นหนา โดยแนวป้องกันมีทั้งกับระเบิด สนามเพลาะ และฟันมังกรป้องกันรถถัง

สถานการณ์ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้พลเอกวาเลรี ซาลูชนี ผู้บัญชาการสูงสุดทางการทหารของยูเครนในเวลานั้น ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวดิ อีโคโนมิสต์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยระบุว่า

สงครามในยูเครนเข้าสู่จุดที่เรียกว่า Stalemate หรือเป็นจุดที่เรียกว่า ไม่มีใครได้หรือเสียพื้นที่เพิ่มเติมแบบมีนัยสำคัญ และจุดเปลี่ยนในสนามรบจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอาวุธที่ทันสมัยมากกว่า อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กองทัพยูเครนเริ่มอ่อนแรง เนื่องจากขาดแคลนอาวุธและเครื่องกระสุนปืน

การเปิดช่องให้รัสเซียถมกำลังทหาร รวมถึงรถถัง เข้ามาในหลายจุด ที่สำคัญที่สุดคือ เมืองอัฟดีฟกา สำหรับ อัฟดีฟกาอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ อยู่ห่างจากเมืองโดเนตสก์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นโดเนตสก์ไปประมาณ 15 กิโลเมตรเท่านั้น เมืองแห่งนี้มีพื้นที่เพียง 31 ตารางกิโลเมตร

แม้จะมีพื้นที่ไม่มาก แต่อัฟดีฟกาถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในการรบสำหรับกองทัพยูเครนตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน

อัฟดีฟกาเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นปราการธรรมชาติ ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาสูงหรือพื้นที่สีแดงที่แสดงอยู่ในภาพนี้ โดยมีถนนสองสายคือ M-30 และ H-20 เชื่อมเข้าสู่เมืองโดเนตสก์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ราบต่ำกว่าและมองเห็นได้จากอัฟดีฟกาคำพูดจาก เว็บสล็อตแท้

นอกจากนี้ เมืองอัฟดีฟกายังมีถนนเส้นเดียว ที่สามารถทอดยาวไปถึงเมืองคาร์คีฟเมืองใหญ่อันดับ 2 ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้อัฟดีฟกาได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่โดเนตสก์ ฐานที่มั่นใหญ่ของรัสเซีย ที่ถูกยึดครองไปตั้งแต่สงครามดอนบาสเมื่อปี 2014 ยูเครนได้ใช้เมืองแห่งนี้บ่อนทำลายระบบการขนส่งของรัสเซียที่อยู่ในเมืองโดเนตสก์ เพื่อตัดกำลังการสู้รบในสงคราม

อีกความสำคัญของอัฟดีฟกาคือ ที่นี่เป็นที่ตั้งของโรงงานถ่านโค้กที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปถ่านโค้ก เป็นเชื้อเพลิงแข็งที่เกิดจากถ่านหินชนิดบิทูมินัส มีความบริสุทธิ์และให้พลังงานความร้อนที่สูงกว่าถ่านหินปกติในระดับที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเตาหลอมเหล็กกล้า ถ่านโค้กจึงมีความสำคัญในอุตสาหกรรมถลุงเหล็กกล้า ซึ่งเป็นโลหะหลักที่ใช้อุตสาหกรรมหนักรวมถึงอุตสาหกรรมผลิตอาวุธ

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่รัสเซียต้องการยึดอัฟดีฟกาให้ได้ เพราะหากได้เมืองนี้ก็จะเท่ากับว่า รัสเซียจะสามารถควบคุมอุตสาหกรรมในภูมิภาคดอนบาสได้อย่างสมบูรณ์

ที่ผ่านมา ยูเครนได้พยายามปกป้องเมืองอัฟดีฟกาอย่างสุดกำลัง โดยมีการวางหน่วยรบที่ดีที่สุดหน่วยหนึ่งของกองทัพไว้ที่นี่ อย่างกองพลน้อยยานยนต์ที่ 54 (54th Mechanized Brigrade)

หลังจากต่อสู้กันอย่างหนักเป็นเวลานาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พลเอกโอเล็กซานเดอร์ ซูร์สกี ผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพยูเครนคนใหม่ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้ออกมาประกาศถอนทหารออกจากอัฟดีฟกา โดยให้เหตุผลว่าเพื่อรักษาชีวิตกำลังพล

นอกจากนี้ สื่อตะวันตกรายงานว่า สื่อรัสเซียได้เผยแพร่คลิปธงชาติยูเครน ที่ถูกนำลงจากยอดอาคารต่าง ๆในเมืองอัฟดีฟกา และมีการนำธงชาติรัสเซียขึ้นไปแขวนไว้แทน

ด้านรัฐบาลรัสเซียได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้กล่าวยกย่องการยึดครองเมืองอัฟดีฟกาว่า เป็นชัยชนะสำคัญและยินดีต่อทหารรัสเซียทุกคน

 ยูเครน เสีย “อัฟดีฟกา” หลังต้านทานหลายเดือน

หลังจากนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้ออกมาตอกย้ำชัยชนะครั้ง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ประกาศว่า การยึดอัฟดีฟกาได้ ทำให้รัสเซียได้พื้นที่เพิ่มเติมมาประมาณ 32 ตารางกิโลเมตร

ความสูญเสียครั้งสำคัญของยูเครนในรอบ 6 เดือน และอาจเป็นก้าวอันตรายที่ส่งสัญญาณเตือนชาติตะวันตกว่า หากไม่เร่งส่งความช่วยเหลือให้ยูเครน รัสเซียอาจเดินหน้ารุกคืบยึดพื้นที่อื่นๆ ต่อได้ พื้นที่ต่อไปที่ตกเป็นเป้าหมายของรัสเซียคือบริเวณใดบ้าง

หนึ่งในนั้นคือ เมืองชาร์สิฟ ยาร์ เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองบัคมุต โดยเมื่สัปดาห์ที่แล้ว อิลเลีย เยฟแลช โฆษกกองทัพยูเครนประจำพื้นที่ดังกล่าว ระบุว่า รัสเซียได้โจมตีที่มั่นของยูเครนมากกว่า 600 ครั้งต่อวัน

นอกจากนี้ หน่วยทหารกองโดรนของยูเครน ได้ระบุว่า ตอนนี้ทหารรัสเซียกำลังนำอาวุธยุทโธปกรณ์หนักต่างๆ ไปประจำการไว้ใกล้พื้นที่เมืองโดเนตสก์

ส่วนความเคลื่อนไหวของทหารยูเครน ตอนนี้สำนักข่าว CNN รายงานว่า กองกำลังพล รวมถึงกองพลน้อยยานยนต์ที่ 54 ล่าถอยไปตั้งอยู่ในแนวรับใหม่ที่เมืองคูเปียนสก์ ทางตอนเหนือเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด รุสตาม อูเมรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน กล่าวว่า การถอยทัพจากเมืองอัฟดีฟกาแสดงให้เห็นว่า ยูเครนต้องการระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศที่ทันสมัย เพื่อตอบโต้การโจมตีระยะไกลของรัสเซีย รวมทั้งจำเป็นต้องได้รับกระสุนปืนใหญ่อย่างเร่งด่วนด้วย

ท่ามกลางภาวะขาดแคลนกระสุนปืน และสหรัฐฯ ยังไม่สามารถอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือชุดใหม่ได้ ล่าสุดหลายชาติในยุโรปเริ่มออกมาประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ยูเครนเสียเปรียบการรบไปมากกว่านี้

คนแรกคือ ปีเตอร์ พาเวล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ก ที่ออกมาประกาศว่า รัฐบาลพบแหล่งที่มีกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. จำนวนกว่า 500,000 นัด และกระสุนปืนใหญ่ขนาด 122 มม. จำนวนกว่า 300,000 นัด ซึ่งจะสามารถส่งไปให้ยูเครนได้ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ หากมีเงินที่เพียงพอในการซื้อ ประธานาธิบดีพาเวล ระบุเพิ่มเติมว่าจะหารือร่วมกับสหรัฐฯเยอรมนี สวีเดน เพื่อระดมทุนจัดหากระสุนเหล่านี้และส่งไปให้ยูเครนก่อน

อีกคนหนึ่งคือ เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เธอได้กล่าวถึงเรื่องนี้ขณะที่ขึ้นเวทีหารือในงานประชุมความมั่นคงมิวนิก โดยระบุว่า สวีเดนจะส่งมอบปืนใหญ่และกระสุนทั้งหมดที่มีให้แก่ยูเครน เพราะตอนนี้เดนมาร์กยังไม่ต้องใช้อาวุธเหล่านี้

ขณะเดียวกันเธอย้ำว่า ชาติยุโรปต้องช่วยกันปกป้องยูเครนและหวังว่าทุกชาติจะช่วยกันส่งความช่วยเหลือไปยังยูเครน เพราะตอนนี้ยูเครนต้องการอาวุธ ไม่ใช่คำพูดสวยหรู

ด้านอันโตนิโอ ทาจานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิตาลี ซึ่งร่วมหารือบนเวทีเดียวกับผู้นำเดนมาร์ก ก็ได้ระบุเช่นกันว่า ตอนนี้อิตาลีได้อนุมัติงบประมาณความช่วยเหลือทางการทหารชุดที่ 8 ให้แก่ยูเครนแล้ว คาดว่าจะไปถึงยูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลียังย้ำว่า รัฐบาลพร้อมที่จะช่วยเหลือยูเครนเพิ่มเติมอีกหลังจากนี้

เปิดตำราข้อควรปฏิบัติของชาวพุทธ ใน “วันมาฆบูชา 2567”

ย้อนฟังเรื่องราว “ไอซ์ ปรีชญา” มรสุมทดสอบชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงปล่อยตัวพักโทษ “ทักษิณ” เป็นไปตามกฎหมาย

By admin